ข้ามไปยังเนื้อหา

การเลือกสายของกล้องวงจรปิด

มีนาคม 7, 2013

การดูแลรักษา สายลำโพงหรือสายนำสัญญาณ

1. สายลำโพงหรือสายนำสัญญาณ ควรใช้ความยาวให้น้อยที่สุด

สายลำโพงควรเผื่อไว้ประมาณ ครึ่งเมตร สำหรับการปรับแต่ง

ความยาวที่เหมาะสมของสายลำโพงอยู่ที่ประมาณ 3 – 5 เมตร

2. สายลำโพงควรติดตั้งวางสายไปในทิศทางเดียวกัน โดยอาจยึดลายพิมพ์ตัวอักษร

เป็นทิศทางได้

 3. เพื่อให้ได้คุณภาพ สายลำโพงและสายนำสัญญาณ ควรรันอินสายสักระยะเวลาหนึ่งอย่างน้อย 50 ชม.

4. ไม่ควรรวบสายลำโพงสายสัญญาณต่างๆ และสาย AC เข้าไว้ด้วยกัน เนื่องจาก

สาย AC จะมีสนามแม่เหล็กรบกวนการนำสัญญาณได้

5. หลีกเลี่ยงการหักมุมหรืองอสายสัญญาณ และสายลำโพงอย่างรุ่นแรง

6. หมั่นถอดสายลำโพงและสายนำสัญญาณ ออกจากขั้วต่อเพื่อทำความสะอาดอย่างสม่ำเสมอ

7. ตรวจเช็คการเชื่อมต่อของสายนำสัญญาณและสายลำโพง ให้แน่นหนา

เทคนิคการใช้สายลำโพงและสายสัญญาณให้มีประสิทธิภาพ

1. ควรใช้สายสัญญานและสายลำโพงให้มีความยาวพอเหมาะ

2. สายสัญญาณและสายลำโพงซ้ายชวาควรยาวเท่ากัน

3. ไม่ม้วนหรือขดสายสัญญาณ จะทำให้เกิดการเหนี่ยวนำทางไฟฟ้าเปลี่ยนแปลงบุคคลิกเสียงได้

4. หมั่นทำความสะอาดขั้วสายสัญญาณและสายลำโพงอย่างสม่ำเสมอ

5. หลีกเลี่ยงการหักมุมสายสัญญาณ

6. ให้ขั้วสัมผัสของปลั๊กและเครื่องเล่นแน่นหนา

       oaxial (โคแอคเชียล) หรือ “สายแกนร่วม” หรือ RG (Radio Guide) หรือ สายนำสัญญาณวิทยุ เพื่อป้องกันการสับสนมันคือสายชนิดเดียวกันนั่นเอง
สาย RG6 ส่วนใหญ่แล้วใช้ในงาน ด้านกล้องวงจรปิด สายอากาศทีวี สายจานดาวเทียม หรืออุปกรณ์คอมพิวเตอร์ ส่วนประกอบหลักๆ จะประกอบไปด้วย

 

        1. Conductor (ตัวนำสัญญาณ) ส่วนใหญ่แล้วจะเป็นเหล็กหุ้มด้วยทองแดง ถ้าหุ้มด้วยทองแดง CCS (Copper Covered Steel)จะบอกเป็น % ของทองแดงหุ้มหรือบางครั้งจะใช้เป็นทองแดงล้วนไปเลย สาเหตุที่ส่วนใหญ่ไม่ใช้เป็นแกนทองแดงล้วนเพราะ ราคาทองแดงราคาสูง และกระแสไฟฟ้าส่วนใหญ่จะไหลผ่านตัวนำที่บริเวณพื้นที่ผิวของวัตถุ

        2. Insulator (ฉนวนหุ้ม) ทำหน้าที่ป้องกันสัญญาณรบกวน จะใช้เป็นโฟม หรือ PE แล้วหุ้มทับด้วยเทปอลูมิเนียม

        3. Wire Braid Shield (ชิลด์หรือเส้นถัก) ส่วนใหญ่ทำจากอลูมิเนี่ยมและทองแดง ป้องกันการแพร่กระจายของสัญญาณรบกวน และการกระจายของสัญญาณออกมาภายนอก จะบอกเป็น % คือพื้นที่ความหนาแน่นที่ในการถัก เช่น 60% 90% 95% สูงสุดอยู่ที่ 95% หรือจำนวนของเส้นที่ใช้ในการถัก เช่น 112, 120, 124, 144 เส้นยิ่งมากก็ยิ่งช่วยในการนำสัญญาณได้ดี และป้องกันสัญญาณรบกวนจากภายนอก ทำให้เดินได้ในระยะที่ไกลขึ้นและป้องกันการกวนของสัญญาณจากภายนอกได้ดี

        4. Jacket (เปลือกหุ้มสาย) ทำหน้าที่หุ้มสายทั้งหมด ถ้าใช้ภายในจะทำด้วย PVC (Polyvinylchloride) ส่วนภายนอกจะใช้วัสดุที่เป็น PE (Polyethylene ) ซึ่งมีคุณสมบัติสามารถป้องกันน้ำและทนแดด สามารถใช้ภายนอกได้

        สายที่ส่วนมากที่นิยมใช้สำหรับกล้องวงจรปิดจะมีอยู่ด้วยกัน 3 ชนิด มาตรฐานของสายสัญญาณ RG ระยะที่แนะนำมีดังนี้

 RG59 สามารถเดินได้ไกล ระยะ 350 เมตร ขนาดของสาย จะมีขนาดเล็กกว่ายืดหยุ่นกว่าเหมาะสำหรับเดินระยะไม่ไกลมาก ตัวสายดัดโค้งงอได้ง่าย 
 RG6   สามารถเดินได้ไกล ระยะ 450 เมตร เป็นที่นิยมที่สุดเพราะราคาถูกเดินได้ระยะไกลกว่าสายไม่แข็งมาก 
 RG11 สามารถเดินได้ไกล ระยะ 750 เมตร เหมาะสำหรับเดินภายนอกอาคารที่ระยะไกลๆ ขนาดของสายเส้นจะใหญ่กว่าทุกแบบ

        ถ้าระยะที่เกินกว่านี้ส่วนมากจะใช้ไฟเบอร์ออฟติกเพื่อทำการแปลงสัญญาณจาก Analog เป็นคลื่นแสงแบบดิจิตอล แล้วทำการแปลงสัญญาณกลับมาเป็นสัญญาณ Analog ที่ใช้กับกล้องอีกครั้ง เช่น ไฟเบอร์ออฟติก แบบมัลติโหมด สามารถเดินได้ถึง 2 กิโลเมตร ส่วนถ้าเป็น Single Mode สามารถเดินได้ถึง 80 กิโลเมตรกันเลยทีเดียว

ให้ความเห็น

ใส่ความเห็น